“ชาติพัฒนา” ระดมพลว่าที่ผู้สมัคร พร้อมลุยเลือกตั้ง “สุวัจน์” ย้ำห้ามขัดแย้ง



“สุวัจน์” ปลุกใจลูกพรรคชาติพัฒนาสู้เลือกตั้ง วางกฎเหล็ก 4 ข้อ “ไม่ขัดแย้ง-ยึดน้ำใจนักกีฬา” ปัดฝุ่นโมเดลแก้ศก.ยุคน้าชาติ “No problem” ด้าน “เทวัญ” แย้มส่งชิงส.ส. 280 เขต

วันที่ 26 ธ.ค. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) จัดประชุมว่าที่สมัครของพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าชพน. พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษา และคณะกรรมการบริหารพรรค นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกุล ที่ปรึกษาพรรค นพ.ประเสริฐ บุญชัยสุข พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก ประธานกรรมการสรรหาผู้สมัครรับสมัครเลือกตั้ง นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคึกคัก

นายสุวัจน์ กล่าวบนเวทีว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต่างจสกทุกครั้ง เพราะมีข้อกำหนดใหม่ๆเข้ามา และยังเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญต่อประเทศ โดยประชาชนคาดหวังอยากเห็นการเลือกตั้งเป็นทางออก ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และให้ปัญหาความขัดแย้งจบไป นอกจากนี้ประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองปฏิรูป จึงต้องมีคนรุ่นใหม่มาบริหารพรรค และได้กรรมการบริหารชุดใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ให้เป็นสูตรผสมที่ลงตัวจากผู้ประสบการณ์มาเป็นที่ปรึกษาพรรค วันนี้ยินดีที่ประชาชนตอบรับชาติพัฒนามากยิ่งขึ้น โดยประชาชนอยากให้แก้ไขเศรษฐกิจและปากท้อง ซึ่งคำที่ชาติพัฒนาใช้ คือ No problem เป็นคำสะท้อนบุคลิกพล.อ.ชาติชาย ชุนหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคนแรกอย่างแท้จริง โดยประชาชนอยากให้พรรคนำเศรษฐกิจยุคน้าชาติกลับมา ดังนั้นจึงต้องใช้ชาติชายโมเดลนำกลับมาใช้

“ผมอยากฝากสมาชิกไว้ 4 เรื่อง 1.ช่วยกันประคับประคองให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย 2.คนที่ผ่านไพรมารีโหวตให้เป็นผู้สมัครของพรรค อย่าทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง 3.เวลาหาเสียงขอให้ทุกคนอยู่ในกรอบน้าชาติโมเดล ไม่ต้องไปวิจารณ์หรือเหน็บแนมคนอื่น ต้องยืนอยู่ตรงกลางประนีประนอม ใครจะเป็นอย่างไรให้ประชาชนตัดสิน และ 4.อยากให้ทุกคนเล่นการเมืองแบบนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย มีวินัย อดทนและเสียสละ อย่าเครียด ถ้าแพ้ก็แก้ตัวใหม่ครั้งหน้า แต่ที่สำคัญของให้ยึดในการสร้างมิตร อย่าเป็นศัตรูกับใคร”นายสุวัจน์ กล่าว

ด้านนายเทวัญ กล่าวว่า พรรคเตรียมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ทั้งหมด 280 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ 60 จังหวัด ขณะที่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่หลักจะส่งผู้สมัครให้ครบ 14 เขต ส่วนจะได้ส.ส.เท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่ โดยส่วนตัวคาดหวังว่าจะได้ ส.ส.เข้าสภาครบจำนวน

ที่มา : ไบร์ทีวี