หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาปัดยุบพรรครวมกับพลังประชารัฐ



วันที่ 15 กันยายน 2561

นครราชสีมา วันที่ 15 กันยายน 2561 เวลา 10.30 น.ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นำอดีต ส.ส. พรรคชาติพัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ , ส.อบจ. และ ส.ท. กลุ่มโคราชชาติพัฒนา อาทิ นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีต รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรคฯ , นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส. , นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม อดีต ส.ส. , นายอุทัย มิ่งขวัญ อดีต ส.ส. และ ส.อบจ. , นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ประธานสภา อบจ.เป็นต้น พร้อมกับแสดงท่าการจับมือไขว่ประสานยืนยันตัวตนที่ยังอยู่กับพรรคชาติพัฒนา พร้อมเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อสยบข่าวยุบพรรคชาติพัฒนาไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ

นายแพทย์วรรณรัตน์ฯ กล่าวว่า ในนามพรรคชาติพัฒนาขอขอบคุณ คสช.ที่มีการคลายล็อคทางการเมืองให้พรรคการเมืองทั้งหลายสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ ยกเว้นการหาเสียงเลือกตั้งแล้ว และยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีให้แก่ประชาชนทั้งประเทศและคนไทยที่อยู่ต่างประเทศได้ทราบว่านับจากนี้ต่อไปบ้านเมืองเรากำลังเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งตามวิถีทางและครรลองระบอบประชาธิปไตยที่เราจะได้มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนต่อไป และเราหวังว่า กกต.ชุดใหม่จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรม เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.เป็นไปด้วยความโปร่งใส สะอาด สุจริต เที่ยงธรรมเป็นที่ยอมรับของประชาชนและทำให้มีความชอบธรรม เพื่อได้ ส.ส.และรัฐบาลที่มีความชอบธรรม สำหรับพรรคชาติพัฒนาเราพร้อมเดินหน้ากิจกรรมทางการเมืองพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าสู่สนามเลือกตั้งอันใกล้นี้

สิ่งแรกที่ทำคือการประชุมใหญ่ของพรรคที่ จ.นครราชสีมาโดยเราจะทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องขออนุญาต กกต.และ คสช.ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วันก่อน เร็วที่สุดคงจะภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ อาจจะช่วงปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค ประกาศอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค นโยบายพรรคเสียใหม่ให้สอดคล้องกับกฏหมายพรรคการเมืองใหม่และการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ การสรรหาสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบ 4 ภาค ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคอีสานมีสมาชิกมากถึงกว่า 5,000 คนก็มีความจำเป็นต้องหาเข้าเพิ่มขึ้นอีก และดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนแต่ละภาคต่อไป ตนหวังว่าการเลือกตั้งที่จะมีถึงนั้นเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมแล้วจะเกิดผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ

ตอบข้อถามถึงกระแสข่าวพรรคชาติพัฒนาจะยุบพรรคไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสามมิตรข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร น.พ.วรรณรัตน์ฯตอบว่า ขณะนี้ขอยืนยันเลยว่า พรรคชาติพัฒนายังดำรงความเป็นพรรคชาติพัฒนาอยู่และเราพร้อมดำเนินการทางการเมืองต่อไป ไม่ได้ยุบไปไหนแน่นอน ตนยืนยันว่าเลือกตั้งครั้งหน้านี้มีพรรคชาติพัฒนา พรรคของคนโคราชอย่างแน่นอน ยืนยันตรงนี้ ส่วนเรื่องพรรคพลังประชารัฐหรือกลุ่มสามมิตรดูดอดีต ส.ส.ไปหลายคนนั้น ตนเรียนว่าเรื่องของพรรคอื่นเราไม่ทราบ แต่พรรคของเรายังอยู่ครบ ส่วนการชูนโยบายในการนำเสนอประชาชนนั้น ตอนนี้กฎหมายยังไม่เปิดช่องให้เราหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่ถ้าเมื่อเปิดโอกาสให้มีการรณรงค์หาเสียงได้เราคงได้มีโอกาสชี้แจงถึงนโยบายพรรคต่อไป

ทั้งนี้เขตเลือกตั้ง จ.นครราชสีมา 14 เขตเราเตรียมไว้ทุกเขตพร้อมเสมอ และไม่อยากจะพูดถึงเป้าหมายจำนวน ส.ส.ที่จะได้ก็คิดว่าเราพยายามทำให้ดีที่สุดดีกว่า เราเชื่อมั่นว่าประชาชนในโคราชที่เป็นฐานเสียงที่สำคัญของพรรคและให้การสนับสนุนเราตลอด ตนว่าเราคงจะได้รับความสนับสนุนอย่างเข้มแข็งจากชาวโคราชต่อไป ส่วนจะได้กี่เสียงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนเขต 1 เมืองหลวงของพรรคชาติพัฒนามีความพร้อม โดยเฉพาะนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต ส.ส.ของเรา ที่พี่น้องประชาชนให้การสนับสนุนพรรคของคนโคราชอยู่แล้วและพี่น้องชาวโคราชได้มีส่วนร่วมที่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ก่อตั้งพรรคขึ้นมากว่า 20 ปีมาแล้ว ส่วนความหวั่นไหวเรื่องแรงดูดนั้น เราไม่หวั่นไหว เพราะเรามีความมั่นคงที่จะดำเนินการของเราต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และอดีต ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนาทุกคน ณ ขณะนี้ยังอยู่กันครบ ส่วนการหารือกับนายสุวัจน์ฯประธานที่ปรึกษาพรรคฯนั้น ตอนนี้เรายังไม่มีเวลาคุยกันเลย ส่วนคนที่สนใจจะเข้ามาร่วมกับเราก็ยินดี เพราะเราเปิดกว้างอยู่แล้ว และขณะนี้สมาชิกพรรคที่ยืนยันเข้ามาแล้วประมาณกว่า 30% ถือเป็นพรรคที่มีสัดส่วนของสมาชิกมายืนยันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง เรามีสมาชิกกว่า 18,000 คนเศษมีมายืนยันกว่า 5,000 คนเศษหรือ 1 ใน 3

นพ.วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีการเก็บบัตรประชาชนเพื่อนำไปเป็นสมาชิกของบางพรรค สำหรับพรรคชาติพัฒนาคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะประชาชนมีอิสระเสรีภาพในการตัดสินใจอยู่แล้ว การที่ประชาชนจะไปสมัครพรรคอื่นเป็นสิทธิของเขาที่ย่อมทำได้อยู่แล้ว ฉะนั้นตนมีความเชื่อมั่นว่า ประชาชนที่ยังยึดมั่นในพรรคชาติพัฒนาก็ยังคงให้การสนับสนุนเราต่อไป ส่วนแบ่งเขตเลือกตั้งอาจจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบนั้น ตนคิดว่าอันนั้นเป็นเหตุผลอันหนึ่ง เพราะว่า เดิมเรามี 15 เขต เวลานี้ลดเหลือ 15 เขต และเขตมีการเปลี่ยนแปลง เขตใหญ่ขึ้น เปลี่ยนแปลงมากขึ้น ตรงนี้หลายฝ่ายมีความกังวลอยู่บ้างในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม กกต.ใช้หลักเกณฑ์การแบ่งที่มีความเป็นธรรม มีเหตุมีผลแล้วตนคิดว่า ถ้าเป็นการแบ่งอย่างเหมาะสม ถูกต้องเป็นธรรมแล้วเราก็ไม่น่าจะกังวลอะไรมาก และการเปิดโอกาสให้เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นก็คงจะเข้าไปร่วมด้วย น.พ.วรรณรัตน์ฯ กล่าว

ที่มา : http://www.nationtuathai.com/content/1824